เจาะ “Future Trend 2020”ผ่าน 4 เมกะเทรนด์ มิติการเปลี่ยนแปลง
เปิดเวทีงานสัมมนา“Future Trend 2020” หนึ่งในกิจกรรมของงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok October เดือนตุลาคม 2562 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติ โดยการรวม 3 เทรดแฟร์เข้าไว้ ด้วยกัน ได้แก่ งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (BIFF&BIL) งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG+BIH) ระหว่างวันที่ 17 – 21 ตุลาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อตอบรับทุกโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
กริยา บิลละยา นักวิเคราะห์เทรนด์ และหัวหน้าโครงการวิจัยเนื้อหาเจาะเทรนด์โลก สำนักส่งเสริม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) กล่าวว่าหน้าที่หลักขององค์กร คือการนำข้อมูลจาก เอเจนซี่ต่าง ๆ มาวิเคราะห์ กลั่นกรองให้เข้ากับบริบทโลก และนำมาปรับใช้ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค
สำหรับปี 2020 เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนเต็มไปด้วยความแตกต่าง จะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อสร้างและซ่อมแซมสังคมที่บอบช้ำในมิติต่างๆ ด้วยความหวังถึง “วันใหม่” การเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 แห่งศตวรรษที่ 21 นี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการยกระดับรากฐานอันเป็นโครงสร้างของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเข้าสู่จุดเปลี่ยนในระดับใหญ่ที่สุด คือการเปลี่ยนแปลงของชนชาติ เชื้อชาติ และศาสนาของคนกลุ่มใหญ่ ระดับรองลงมาเป็นการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยด้านเทคโนโลยีอย่างเรื่อง 5G และจริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์ จนถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับที่เล็กที่สุดอย่างเรื่องของวิทยาศาสตร์ รหัสพันธุกรรม และอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ ดังนั้นแกนหลักที่ใช้ในปัจจุบัน คือการติดตามเมกะเทรนด์ ซึ่งประกอบด้วย 4 เรื่อง
1. ประชากร POPULATION คุณค่าของผู้บริโภคยุคใหม่อยู่ที่ความเชื่อ และประสบการณ์ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งสมผ่านชีวิตของตนซึ่งเรียกว่า สไตล์ที่มีมุมมองความคิด แบรนด์จึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้มีส่วนร่วมต่อสังคม การเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภค ซึ่งกระตุ้นให้การตลาดต้องปรับยุทธศาสตร์ จากการออกแบบและการคิดเชิงสร้างสรรค์ เพิ่มลำดับความสำคัญให้กับความร่วมมือกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง ความโปร่งใส การแสดงออก และการเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับแบรนด์มากขึ้น
2.สังคมและวัฒนธรรม SOCIAL & CULTURE ปี 2020 จะเป็นปีของ Local Activism หรือการเคลื่อนไหว ของกลุ่มคนที่ไม่ยอมจำนนต่อข้อจำกัดความรู้สึกไม่เท่าเทียม และต้องการหยัดยืนด้วยความเชื่อและการตระหนักถึงคุณค่าในตัวเอง เทรนด์สังคมและวัฒนธรรม ในปีนี้จึงเป็นการรับรู้และได้ยินเสียงจากคนทุกกลุ่ม ความเท่าเทียมอันเป็นพลังของท้องถิ่นที่หมุนให้โลกเคลื่อนไหว
3.เทคโนโลยี TECHNOLOGY รายงานหัวข้อ Workforce of the future โดย PwC ได้ยก 4 ประเด็นสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนแนวคิดความสามารถนิยม (Talentism) ซึ่งจะมาแทนที่ระบบทุนนิยมในโลกอนาคต ประกอบด้วย ความสามารถทางนวัตกรรมเทคโนโลยี การเปลี่ยนผันของประชากร การขยายตัวของเมือง และความผันแปรของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และจะถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะหรือ AI ที่สามารถขยายสู่ตลาด Mobile Commerce สร้างจุดแข่งขันการขายสินค้าออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับโฆษณาในช่วงเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม สามารถออกแบบแอพพลิเคชั่นให้มีความสามารถเฉพาะกลุ่มลูกค้า เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยยึดแนวทางเรื่องจริยธรรมเทคโนโลยีมากขึ้นและกำหนดให้ใช้งานในระดับข้ามชาติ รวมถึงแนวทางด้านการพัฒนาจริยธรรมดิจิทัล ที่เน้นความโปร่งใส และความถูกต้องเป็นสำคัญ
4. สิ่งแวดล้อม ENVIRONMENT ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นสิ่งที่ผูกพันกับทุกอุตสาหกรรม สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและในระยะยาวให้เกิดขึ้นได้จริง และปรับใช้ให้เข้ากับกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน การลดปริมาณการใช้ต้นทุนจากแหล่งทรัพยากร ตั้งแต่ไฟฟ้าจนถึงปริมาณการใช้น้ำ มาเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้เกิดการขับเคลื่อนในระดับประเทศอย่างที่รัฐบาลของสหราชอาณาจักรเริ่มลดภาษีให้กับสินค้าด้านแฟชั่นที่มีแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ทำให้ร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ เร่งสร้างแนวทางการดำเนินการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบให้เห็นในโลกใบนี้
ดังนั้นยุคนี้คือช่วงเวลาที่กระบวนการผลิตพลิกผัน สินค้าขั้นสุดท้ายที่ถูกใช้โดยผู้บริโภคและถูกแยกออกมาจากขยะจะถูกนำมาเป็นต้นทุนในการผลิตสินค้าใหม่ ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าน้อยลงและลงทุนมากขึ้นกับระบบใหม่ที่ช่วยยกระดับวงจรของผลิตภัณฑ์ จากใช้แล้วทิ้งเป็นการนำกลับมา ใช้ใหม่อยู่เสมอ ทำให้คำว่า“ความรุ่มรวยทางวัสดุ” นั้นมีความหมายเป็นจริงมากขึ้น อย่างเช่นคอนกรีตที่ซ่อมตัวเองได้หรือพลาสติกชีวภาพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดหลัก
เทรนด์ปี 2020 ขอเริ่มต้นด้วยคำว่า “การบริโภค” คำสำคัญที่เป็นได้ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบของสิ่งแวดล้อมในอนาคตที่กำลังจะมาถึง
เหล่านี้คือประโยชน์ที่เราได้รับไม่เพียงแค่การไปช้อปสินค้าที่งาน STYLE Bangkok เดือนตุลาคม 2562 เท่านั้น แต่หากเป็นสาระที่เราสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ในตัวเรามากขึ้น เตรียมความพร้อมแล้วพบกันใหม่ในงาน STYLE Bangkok ครั้งต่อไปในปี 2563 ติดตามความเคลื่อนไหว และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.stylebangkokfair.com/ หรือ สายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร. 1169